บทความ

โบสถ์คาร์ตา สถานที่หลอนแห่งโรมาเนีย

รูปภาพ
 โบสถ์คาร์ตา (Carta Monastery) เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่ใน ทรานซิลเวเนีย ประเทศโรมาเนีย  โบสถ์แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 13 แต่พอช่วงสตวรรษที่ 15 กลับถูกปล่อยทิ้งร้าง ไร้ผู้คนอาศัยอยู่ จนปัจจุบันนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โบสถ์แห่งนี้ คือศาสนสถาน ที่มีทั้งโบสถ์ สถานศึกษา และชุมชนขยาดย่อมที่มีเฉพาะ แม่ชี และบาทหลวง โบสถ์แห่งนี้ โดยทั่วไปแล้วดูเป็นสถานที่ที่สวยงามแห่งหนึ่งเลยทีเดียว แต่พอถึงยามค่ำคืน กลับดูน่ากลัว และหลอนอย่างมากๆ  ความน่ากลัวของที่นี่ มาจากคำร่ำลือของชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น เล่าว่า โบสถ์แห่งนี้ มีวิญญาณของนักบวชสิงอยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาที่โบสถ์แห่งนี้มักเจอเรื่องแปลกๆ อย่างเช่น ชั้นวางของ ที่อยู่ๆ ก็สั่นเองได้ หรือเก้าอี้ขยับเองได้ เลยทำให้เป็นอีกสถานที่ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปคนเดียว แม้แต่จะเป็นตอนกลางวันก็ตาม  แต่ถ้าสำหรับพวกนักล่าท้าผีหล่ะก็ ไม่แน่ อาจจะเป็นสถานที่ที่น่าลองไปก็ได้ โบสถ์แห่งนี้ ดูแล้วอาจจะคุ้นๆตากันนะ เพราะว่า เป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง The Nun ในจักรวาล The Conjuring นั่นเอง ซึ่งบอกเลยว่า บรรยากาศของในหนังน่าขนลุกสุดๆ 

ผีดิบแห่งเกาะมิโคนอส

  ในขณะที่ไปเยี่ยมชมที่เกาะมิโคนอส ในปี 1700 โจเซป พิตตัน เดอ ทัวร์เนฟอร์ท นักพฤกศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้เรียนรู้วิธีทำให้ชาวนาที่ตายแล้วคนหนึ่งกลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง ชายคนดังกล่าวถูกฆ่าตายโดยบุคคลลึกลับในทุ่งนาแต่ภายหลัง เขาฟื้นกลับมากลายเป็น วริคโคลัคคาส ปีศาจผีดิบที่เหมือนกับแวมไพร์ในยุโรปตะวันออก ในช่วงแรก ผีดิบดูไม่เป็นอันตราย เพียงแต่สร้างความรำคาญ อย่างเช่น กลับหัวเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ และมักจะเข้ามากอดผู้คนจากด้านหลัง แต่หลังจากนั้นพวกมันเริ่มก่อความรำคาญให้ชาวเกาะมากขึ้น วริคโครัคคาส ถูกควักหัวใจออก แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดมันไว้ได้ ดพราะมันเริ่มทำร้ายผู้คน มันขึ้นไปบนหลังคา และขโมยเหล้าของพวกเขา และในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงสั่งย้าย วริคโคลัคคาสทั้งหมด ไปบนเกาะเซนต์จอร์จ บริเวณใกล้เคียง และเผาทำลายพวกมันทั้งหมดจนไม่เหลือ ข้อมูลจาก : https://petmaya.com/10-bizarre-paranormal-europe

การลักพาตัวแม่มดแห่งเบอร์เคลีย์

  ในช่วงตต้นศตวรรษที่ 12 วิลเลียมแห่งมัลเมสบูรี นักบวชและนักประวัติศาสตร์ได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะตายในเมืองเบอร์เคลีย์ ประเทศอังกฤษ เธอได้สารภาพกับลูกๆ ของเธอว่า เธอตกเป็นทาสของปีศาจและแม่มดตนหนึ่ง และขอร้องให้พวกเขาฝังเธอในโลงหินที่มัดด้วยโซ่เหล็ก เพื่อไม่ให้ปีศาจขโมยศพของเธอไป เธอได้ตามที่ปรารถนา ทางโบสถ์คอยเฝ้าดูโลงศพของเธอเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน ก่อนที่เธอจะถูกฝัง จนกระทั่งมาถึงคืนที่ 3 ปีศาจตัวหนึ่งก็โผล่ออกมา ฉีกกระชากประตูโบสถ์ออก และเดินตรงมาที่โลงหินพร้อมกับผ่ามันออก มันนำร่างของเธอโยนขึ้นไว้บนหลังม้าสีดำตัวใหญ่ ที่ปกคลุมไปด้วยหนามเหล็กปหลม และวิ่งหายไปในความมืดยามค่ำคืน ข้อมูลจาก : https://petmaya.com/10-bizarre-paranormal-europe

การเผชิญหน้ากับ แบนชี ของเลดี้ แฟนชอว์

  ในปี 1642 เลดี้แฟนชอว์ และสามีของเธอ เซอร์ ริชาร์ด จากอังกฤษ ได้ไปเยี่ยมชมปราสาทเก่าแก่ของสหายคนหนึ่งในไอแลนด์ คืนหนึ่งขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่นั้น เลดี้ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเธอได้ยินเสียงกรีดร้อง เธอจึงหันไปที่หน้าต่างและก็ต้องพบกับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจ้องมองมาที่เธอและกรีดร้องอยู่ หญิงคนดังกล่าวกรีดร้องอยู่หลายครั้ง ก่อนที่เธอจะหายไปในอากาศ ในเช้าวันต่อมา เลดี้ แฟนชอว์ ได้ฟังเรื่องราวจากผู้ดูแลปราสาทว่า มีสมาชิกครอบครัวคนหนึ่งของที่นี่ได้เสียชีวิตไปเมื่อคืนก่อน และเลดี้เองก็น่าจะได้พบกับปีศาจแบนชี ปีศาจที่จะมาปรากฏตัวทุกครั้งเวลาที่มีคนเสียชีวิต ข้อมูลจาก : https://petmaya.com/10-bizarre-paranormal-europe

ครอบครัวมนุษย์หมาป่าแกนดิลเลียน

  ในปี 1598 พี่น้องชายหญิงคู่หนึ่ง จากประเทศฝรั่งเศสตะวันออก บอกกับชาวนากลุ่มหนึ่งว่าพวกเขาได้ถูกทำร้าย โดยหมาป่าตัวหนึ่ง ซึ่งหมาป่าตัวนั้นมีใบหน้าเป็นมนุษย์ หลังจากนั้นกลุ่มชาวนาจึงได้ออกไปตามล่าหมาป่า พวกเขาพบด็กผู้หญิงที่ชื่อ เปอร์เรเนต์ แกนดิลเลียน โดยที่มีเลือดเปรอะเปื้อนอยู่เต็มเสื้อผ่าของเธอ กลุ่มชาวนารุมฆ่าเด็กหญิงทันที เพราะมีข่าวมานานแล้วว่าครอบครัวของเธอมีความเกี่ยวข้องกับปีศาจ หลังจากการตายของเธอ ปิแอร์ , ออตัวเน็ตต์ และจอร์จ พี่น้องครอบครัวแกนดิลเลียน ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์หมาป่าด้วยเช่นกัน ปิแอร์บอกว่า เขาสามารถเปลี่ยนร่างของเขาให้กลายเป็นหมาป่าได้ เมื่อเขาสวมผิวหนังของหมาป่า ในขณะที่จอร์จก็ทำได้เช่นกัน โดยการทาขี้ผึ้ง แต่สุดท้าย ทั้งหมดถูกจับและถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น ข้อมูลจาก : https://petmaya.com/10-bizarre-paranormal-europe

ช่างทำรองเท้าแห่งเบรสเลา

  ในเดือน กันยายน ปี 1591 ที่เมืองเบรสเลา (ในปัจจุบันเป็นเมืองวรอตสวัฟ ประเทศโปแลนด์) เหตุเกิดไม่คาดฝัน มีช่างทำรองเท้าคนหนึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการเชือดคอตัวเองอย่างเลือดเย็น และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ชาวเมืองเล่าว่า เห็นช่างทำรองเท้าคนนั้น ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของพวกเขาในตอนกลางคืน และไม่ใช่แค่ปรากฎกายเท่านั้น เขายังมานอนทับและทำร้ายพวกเขาอีก ในเดือน เมษายน ปี 1592 เวลาผ่านมาเกือบ 1 ปี ชาวเมืองตัดสินใจของช่างทำรองเท้าคนนั้นขึ้นมา แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อร่างกายของช่างรองเท้าผู้นั้นกลับไม่เน่าเปื่อยเลย สัปเหร่อจึงได้เก็บศพของช่างทำรองเท้าไว้เหนือหลุมของเขา เป็นเวลา 6 วัน และฝังเขาลงกลับลงไป แต่ไม่ใช่ที่หลุมเดิม แต่เป็นหลุมอื่นแทน แต่ชาวบ้าน ก็ยังคงพบเห็นช่างรองเท้ารายนั้นอยู่อีกเรื่อยๆ และต่อมาอีก 1 เดือน ศพของช่างรองเท้ารายนั้น ถูกขุดขึ้นมาอีก เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้ตายไปแล้วจริงๆ แต่ครั้งนี้กลับพบว่า ร่างกายของเขาถูกแยกส่วน ทั้งแขน ขา ศรีษะของเขาถูกตัดออกจากกัน รวมถึงหัวใจที่หายไป คาดว่าน่าจะถูกนำไปทำลายแล้ว หลังจากนั้น ซากที่เหลือของเขาจึงถูก

แอปเปิ้ลปีศาจพูดได้แห่งอานน์ซี

  ในปี ค.ศ. 1585 ณ เมืองอานน์ซี ประเทศฝรั่งเศส มีเหตุการณ์ลึกลับเกิดขึ้นบริเวณ สะพานข้ามคลองแห่งหนึ่ง เมื่อจู่ๆ เกิดเสียงโหวกเหวกโวยวายขึ้นมา แต่ปรากฏว่าเสียงที่เกิดขึ้นนั้นมาจาก แอปเปิ้ลลูกหนึ่ง ที่แขวนอยู่บนต้นไม้ใกล้กับสะพาน แอปเปิ้ลลูกดังกล่าวไม่ใช่เป็นเพียงแค่แอปเปิ้ลธรรมดาๆ แต่ว่ามันตะโกนสาปแช่งผู้คน และพูดจาเหลวใหลไร้สาระอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่ามันถูกปีศาจเข้าสิง จนกระทั่งมีชายใจกล้าตัดสินใจเอาไม้เขี่ยมั้นตกลงมา และโยนมันลงคลอง เหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้สงบลง จบง่ายๆ อย่างงี้เลยหรอ เอาเป็นว่า รอติดตามต่อไปว่าจะมีเรื่องราวสยองของเจ้าแอปเปิ้ลลูกนี้อีกไหม ข้อมูลจาก : https://petmaya.com/10-bizarre-paranormal-europe